บ้านห้วยปูหลวง ตำบลยางเปียง อำเภออมก๋อย อยู่ห่างจากอำเภอ 27 กิโลเมตร เป็นชาติพันธุ์กะเหรียง เมื่อประมาณปี 2558 ครั้งไปสำรวจข้อมูลชุมชนเพื่อทำโครงการด้านสิ่งแวดล้อม ได้เริ่มรู้จักแม่หลวงมึเง ตอนนั้นแม่หลวงยังเป็นคนขี้อาย ไม่กล้าพูด ไม่กล้าถาม แต่เมื่อมีโอกาสจัดกิจกรรมในชุมชนหลายๆครั้งได้พยายามให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ออกความคิดเห็น ออกมานำเสนอหน้าเวทีการประชุม แม่หลวงเริ่มกล้าที่จะพูดกล้า
แสดงออก โดยเข้ามาร่วมกิจกรรมแรกในโครงการชีวาป่าดอย เป็นโครงการสร้างอาชีพกับกลุ่มผู้หญิงของมูลนิธิรักษ์ไทย แม่หลวงมึเงได้ตั้งกลุ่มทอผ้าเพื่อรับการสนับสนุนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยมีสมาชิกในกลุ่ม 20 คน เดิมเย็บมือและพัฒนามาเย็บจักร ต่อมาได้รับการจากสนับสนุนอุปกรณ์เย็บจักรและพาไปศึกษาดูงานจากโครงการการสร้างพลังทางเศรษฐกิจและสังคมให้แก่สตรี อมก๋อย
เมื่อมีกิจกรรมออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในเมืองเชียงใหม่ ทางมูลนิธิฯ ได้ชวนแม่หลวงมึเงร่วมออกร้าน แต่ครั้งแรกยังไม่เข้าร่วมเพราะยังไม่กล้า แต่ครั้งต่อมาได้ชวนอีก แม่หลวงต่อรองขอมีผู้ชายไปด้วย ครั้งนี้แม่หลวงสามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มได้ จึงรู้สึกภูมิใจ นอกจากขายของได้เงินแล้วยังได้เจอเพื่อนที่เป็นชาวกะเหรี่ยงด้วยกัน ได้เจอลูกค้าที่ชอบพอสินค้าของชุมชน เริ่มติดใจอยากขายของ แม่หลวงมึเงบอกให้ช่วยด้วยหากมีงานขายของอีก
แม่หลวงร่วมงานกับมูลนิธิรักษ์ไทยและหน่วยงานต่างๆที่เข้ามาพัฒนาในชุมชนอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะป็นการอบรม ดูงาน การออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ แม่หลวงจะไม่ปฏิเสธที่จะเข้าร่วม ทั้งที่แม่หลวงมีงานประจำคือการเพาะกล้าพริก มะเขือเทศ แต่จะสละเวลา และอยากพาสมาชิกไปร่วมเรียนรู้อยู่เสมอ หากบางกิจกรรมสมาชิกไปไม่ได้ แม่หลวงจะไปคนเดียวหรือไปกับพ่อหลวงระกาผู้เป็นสามี นับเป็นผู้หญิงที่สนใจเรียนรู้ อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้นำสินค้าขายผ่านออนไลน์ โดยการสร้างเฟซบุ๊กของกลุ่มวิสาหกิจ ชื่อว่า “ผ้าทอ.ทีคี”
นอกจากการได้ร่วมทำกิจกรรมเรียนรู้ด้านอาชีพกับมูลนิธิรักษ์ไทยซึ่งทำให้แม่หลวงได้รับการพัฒนาให้กล้าแสดงออกมากขึ้นแล้ว คนที่เป็นแรงผลักดันสำคัญคือผู้ใหญ่ระกา ผู้เป็นสามีที่มีความเข้าใจ ให้โอกาส ต้องการให้ภรรยาและผู้หญิงในชุมชนกล้าแสดงออก กล้าคิด หากมีการประชุมอบรมที่ไหนผู้ใหญ่จะถามว่ามีให้ผู้หญิงเข้าร่วมด้วยหรือไม่ หากมีจะได้ชวนลูกบ้านไปเรียนรู้ด้วยเสมอ
เมื่อถูกถามว่าการทำงานมีปัญหาหรือไม่ แม่หลวงมึเงบอกว่า “ปัญหาก็มี บางครั้งท้อไม่อยากทำ ไม่อยากเดินต่อแล้ว แต่พอมานึกถึงหน่วยงานที่สนับสนุน แล้วมาถามตัวเองและสมาชิกว่าทำเต็มที่แล้วหรือยัง และหากใครไม่พร้อมก็หยุดไปก่อน แต่หากพร้อมเมื่อใดก็ให้กลับมาช่วยกันอีก ต้องสู้เพื่ออนาคตของผู้หญิงในชุมชน” ปัจจุบันแม่หลวงมึเง เป็นประธานกลุ่มอาชีพของบ้านห้วยปูจดทะเบียนวิสาหกิจชื่อ กลุ่มพัฒนาห้วยปู ที่มีกิจกรรมและผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ในเรื่องการทอผ้า เย็บผ้าห่ม ผ้าเช็ดเท้า สร้างรายได้ให้กลับสมาชิกกลุ่ม แม่หลวงกล่าวว่า “กลุ่มไม่สามารถเดินได้ด้วยคนๆเดียวแต่ต้องเดินไปพร้อมสมาชิกที่ร่วมกันขับเคลื่อน ผู้หญิงจะพัฒนาได้จะต้องให้ผู้ชาย ครอบครัวเข้าใจและพร้อมที่จะพัฒนาไปด้วยกัน”
หมายเหตุ *คำว่า “แม่หลวง” ในภาคเหนือคือแม่บ้านที่เป็นภรรยาของผู้ใหญ่บ้าน*
เขียนโดย สมศักดิ์ แก้วศรีนวล
เรียบเรียงโดย ธนาวดี องค์อินทรี